คู่มือนี้จะเจาะลึกดัชนีตลาดประเภทต่างๆ เหตุผลที่สามารถได้ประโยชน์จากการเทรด CFD รวมถึงครอบคลุมกลยุทธ์การเทรดดัชนียอดนิยม
เปิดบัญชีการเทรดมีความเสี่ยง
หลายๆ คนต้องการเทรดความเคลื่อนไหวของราคาตลาดมากกว่าซื้อ ขายและเทรดสินทรัพย์แต่ละรายการของตลาดดังกล่าว ดัชนีหุ้นจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม FXTM ให้บริการเทรดดัชนีหุ้นในรูปแบบของ CFD เช่นเดียวกับฟอเร็กซ์และหุ้น
คุณควรเลือกอะไร ดัชนีหุ้นมีเงื่อนไขที่ดีกว่าฟอเร็กซ์หรือ CFD หุ้นหรือไม่ นี่คือการเปรียบเทียบตราสารเหล่านี้ในแต่ละจุดจากมุมมองของ FXTM
ประเภทดัชนี ได้แก่ ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นและพันธบัตร ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น วัตถุดิบ โลหะมีค่าหรือผลิตผลทางการเกษตร
ดัชนีพันธบัตรประกอบด้วยพันธบัตรต่างๆ จากตลาดพันธบัตร พันธบัตรเป็นหนี้ของบริษัทหรือรัฐบาลจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ FXTM ไม่ได้ให้บริการดัชนีพันธบัตรและสินค้าโภคภัณฑ์
ดัชนีเลียนแบบจะอ้างอิงตลาดที่ได้รับการจำลองขึ้นมาซึ่งได้รับความนิยมสูงกว่าในลักษณะที่เป็นกลุ่ม ขณะที่ดัชนีเคลื่อนไหวคล้ายตลาดเงินจริง แต่การปร้บตัวของราคาจะเกิดขึ้นจากการใช้ตัวเลขที่สร้างขึ้นแบบสุ่มผ่านโบรกเกอร์ทางคอมพิวเตอร์ที่ปลอดภัย ไม่มีโบรกเกอร์แห่งใดที่สามารถควบคุมตัวเลขเหล่านี้ได้ จึงไม่มีอิทธิพลเหนือ ‘พฤติกรรม’ ของตลาด ตัวอย่างหนึ่งของกลุ่มตลาดหุ้นก็คือดัชนีโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นได้รับความนิยมสูงสุดและเทรดกันมากที่สุดเนื่องจากประกอบด้วยกลุ่มหุ้นต่างๆ จากบริษัทชั้นนำที่เทรดในตลาดหุ้นที่เจาะจง ตัวอย่างเช่น ดัชนี FTSE 100 (หรือ UK 100) ประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งใน London Stock Exchange
ดัชนีไม่มีค่าในตัวเองและไม่ได้เป็นหุ้นที่มีกรรมสิทธิ์ในบริษัท
ดัชนีมินิเป็นชุดสินทรัพย์เช่นเดียวกับดัชนีปกติ อย่างไรก็ตาม ดัชนีมินิจะมีขนาดล็อตที่เล็กกว่า เท่ากับคุณจะใช้เงินลงทุนน้อยลง ตัวอย่างดัชนีมินิยอดนิยมได้แก่ Mini S&P500 และ Mini Wall Street 30 ซึ่งสามารถเทรดได้ที่ FXTM ทั้งคู่
ดัชนีมินิเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีความระมัดระวังเพื่อลงทุนในบริษัทสำคัญและช่วยให้คุณสามารถกระจายความเสี่ยงให้พอร์ทของคุณโดยทำให้เงินทุนมีความเสี่ยงน้อยลง
มีวิธีหลักในการคำนวณค่าดัชนีอยู่สองวิธี ซึ่งเรียกว่าแบบแผนการถ่วงน้ำหนักดัชนี
ราคาของดัชนีจะคำนวณโดยคำนึงถึงราคาต่อหุ้นของหุ้นแต่ละตัวในดัชนี ซึ่งหุ้นแต่ละตัวจะเป็นส่วนหนึ่งของค่าดัชนีโดยรวม ดังนั้น หากหุ้นมีราคาเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งถ่วงน้ำหนักในดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยราคาได้มากขึ้น
ในแบบแผนนี้ หุ้นแต่ละตัวในดัชนีจะได้รับการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีมูลค่าตลาดสูงกว่า (มูลค่าของบริษัทตามหุ้นที่ชำระแล้ว) มูลค่าหุ้นของบริษัทจะมีส่วนในค่าของดัชนีมากกว่าหุ้นที่มีราคาแพงกว่าจากบริษัทที่มีมูลค่าตลาดน้อยกว่า
มีวิธีต่างๆ ที่จะเทรดและลงทุนในดัชนีทางการเงิน คุณสามารถลงทุนใน Exchange-Traded Funds (ETF) ฟิวเจอร์สดัชนี หรือออปชั่นดัชนีอื่นๆ นักลงทุนจะได้รับปันผลจากกองทุนรวมดัชนีและ ETF
ความท้าทายของการลงทุนในกองทุนดัชนีหรือ ETF สำหรับเทรดเดอร์รายย่อยก็คือโบรกเกอร์บางแห่งกำหนดให้ใช้จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำในปริมาณมาก นอกจากนี้ ยังต้องชำระค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ
วิธีที่เร็วที่สุดที่จะเริ่มต้นเทรดดัชนีก็คือการเทรดสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ซึ่ง FXTM มีให้บริการ แต่คุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงและไม่ได้รับเงินปันผล CFD ช่วยให้เทรดเดอร์รายย่อยสามารถเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาดัชนีได้ การเทรดจะเกิดขึ้นในตลาดสปอตดัชนีซึ่งนำเสนอประสบการณ์ที่เทียบเคียงกับการเทรดคู่ฟอเร็กซ์
นี่คือเคล็ดลับสำคัญบางอย่างในการเทรดดัชนีก่อนที่คุณจะเริ่มต้น:
ใช้จิตวิทยาในการเทรดที่ถูกต้องซึ่งจะเตรียมตัวคุณให้พร้อมสำหรับช่วงเวลาที่ตลาดตกต่ำ
สร้างกฎการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ปกป้องคุณจากการเข้าเทรดที่ไม่คุ้มค่า
มีแนวทางที่มีระเบียบวินัยโดยสร้างระบบการเทรดและปฏิบัติตามกฎการบริหารจัดการความเสี่ยง
เทรดเดอร์จะสนใจดัชนีที่มีปริมาณการเทรดมากที่สุดและมีความผันผวนสูงกว่าเพื่อให้สามารถทำกำไรได้จากการแกว่งตัวของราคา ดัชนีตลาดหุ้น ประกอบด้วยหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดโดยพื้นฐาน
FXTM ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเทรดดัชนีหุ้นได้ทั่วโลก ดัชนีหุ้นมีปริมาณการเทรดสูงและผ่านการวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด จึงเท่ากับว่าคุณสามารถค้นหาข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องซึ่งประกาศออกมาได้
ดัชนีหุ้น
นอกจากนี้ ยังสามารถเทรดกลุ่มหุ้นที่ไม่ใช่ดัชนีหุ้นทั่วไปแต่ได้รับการนำเสนอเป็นดัชนี เช่นเดียวกับกลุ่มสกุลเงิน แต่กลุ่มสกุลเงินจะไม่มีหุ้นเป็นส่วนประกอบ ขณะที่กลุ่มหุ้นจะมีค่าเฉลี่ยราคาถ่วงน้ำหนักของหุ้นจำนวนหนึ่งในธีมหรืออุตสาหกรรม (คล้ายคลึงกับ Index ETF แบบดั้งเดิมอย่างยิ่ง)
ขณะนี้ FXTM ให้บริการ Social Media Index, Space Wars Index, Green Index, Mobile Index และ Vegan Index
ข้อดีของตลาดดัชนี CFD ก็คือคุณสามารถใช้เทคนิคที่ผ่านการพยายามและทดสอบแล้วซึ่งใช้ในการเทรดหุ้นหรือฟอเร็กซ์ได้โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเทรดทางเทคนิคของคุณ นี่คือเทคนิคบางอย่างในการเทรดดัชนีทางเทคนิคที่คุณสามารถเริ่มต้นนำมาใช้ได้ในฐานะมือใหม่
การพัฒนาทักษะเพื่อค้นหาระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นเป็นทักษะพื้นฐานที่คุณจะเรียนรู้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวทั้งคู่จะแสดงระดับราคาที่ดูเหมือนจะปรับตัวทะลุขึ้นและลง แต่ว่าปรับตัวไม่ผ่าน
กลยุทธ์ทั่วไปในการเทรดด้วยแนวรับและแนวต้านก็คือให้ซื้อระหว่างที่ราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและได้ปรับตัวลงมาที่เส้นแนวรับ เพราะเทรดเดอร์สามารถคาดหวังได้ว่าราคาจะเด้งกลับไปในทิศทางขาขึ้น หรือระหว่างแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์จะขายระหว่างที่ราคาแตะระดับแนวต้านโดยคาดหวังว่าดัชนีจะปรับตัวลดลงไปอีก
แนวรับและแนวต้านที่ปรากฏการเทรดตามเส้นแนวโน้มมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อเทรดดัชนีหุ้นในฐานะ CFD ตัวอย่างเช่น ดัชนี เช่น S&P 500 อยู่ในขาขึ้นเป็นเวลานาน
โดยเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องนานเป็นพิเศษ บริษัทต่างสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ซึ่งทำให้เติบโตในระยะยาว ราคาหุ้นจึงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
มีวิธีค้นหาแนวโน้มหลายวิธี เช่น การลากจุดต่ำสุดที่สูงสุดและจุดสูงสุดที่ต่ำสุด หรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และเครื่องมือวิเคราะห์โมเมนตัม
การค้นหาแนวโน้ม: คู่มือสำหรับมือใหม่การใช้ Moving Average เพื่อเทรดดัชนีจะช่วยให้คุณสามารถระบุแนวโน้มของตลาดในภาพรวมได้โดยไม่มีสัญญาณรบกวนจากความเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวัน Moving Average สามารถนิยามได้ว่าเป็นเส้นที่อ้างอิงตามราคาปิดโดยเฉลี่ยในกรอบระยะเวลาที่กำหนด
ซึ่งกรอบเวลาต่างๆ ที่นิยมใช้ใน Moving Average ได้แก่ 10 วัน, 20 วัน หรือ50 วัน Moving Average จะแสดงระดับแนวรับและแนวต้าน ตัวอย่างเช่น ระหว่างแนวโน้มขาขึ้นในตลาด ราคามีแนวโน้มที่จะเด้งขึ้นมาหลังจากลงมาทดสอบ Moving Average
เครื่องมือวิเคราะห์อีกตัวที่ง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับใช้เมื่อเทรดดัชนีก็คือ Scholastic Oscillators ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ง่ายสำหรับมือใหม่เนื่องจากประกอบด้วยเส้นสองเส้น ได้แก่: %K และ %D โดยพื้นฐานแล้ว จะใช้เพื่อพิจารณาว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปหรือไม่
ทั้งนี้ เทรดเดอร์จะดูสัญญาณการเทรดจาก %D เป็นหลัก เหตุที่เรียกว่า Oscillators (สิ่งที่แกว่งไปมา) ก็เพราะเส้นจะแกว่ง (ปรับตัวขึ้นและลง) ตามความเคลื่อนไหวของราคา
Scholastic Oscillatorsมีสองประเภท ได้แก่: แบบช้าและเร็ว Scholastic Oscillators แบบเร็วมีแนวโน้มที่จะสร้างสัญญาณหลอกมากกว่าเนื่องจากอ่อนไหวต่อสัญญาณรบกวนมากกว่า
เมื่อปรับเปลี่ยนสูตร จะได้ Scholastic แบบช้าซึ่งแก้ปัญหาเรื่องความเคลื่อนไหวของราคาได้มากกว่าเพื่อสร้างสัญญาณที่ดีกว่า
เทรดดัชนีดุจมืออาชีพโดยเรียนรู้เรื่องเครื่องมือวิเคราะห์และกลยุทธ์การเทรดทางเทคนิคเหล่านี้
พื้นฐานในการเทรด CFD ดัชนีก็คือการเลือกว่าจะเปิด Long หรือ Short หลังใช้กลยุทธ์การเทรดดัชนีของคุณ คุณอาจได้ข้อสรุปว่าการซื้อดัชนีโดยเปิดสถานะ Long น่าจะดีกว่า จากนั้น คุณจะถือสถานะไว้โดยคาดว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หากเป็นเช่นนั้น คุณก็จะปิดสถานะเมื่อราคาสูงขึ้นและได้กำไร
การ Short ดัชนีหมายความว่าคุณคาดว่ามูลค่าจะลดลง อาจเป็นเพราะการประกาศข่าวเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามคาด
คุณจะไม่สามารถเปิดสถานะ Short และ Long ในการเทรด CDS ดัชนีหรือการเทรดดัชนี ETF ได้
การเทรดดัชนีในรูปแบบ CFD จะให้คุณเข้าใช้เลเวอเรจได้ เลเวอเรจเป็นความสามารถที่จะเปิดสถานะที่มีมูลค่าสูง (เช่น $20,000) แต่ใช้เงินทุนของคุณเองในจำนวนน้อยกว่า (เช่น $500)
FXTM นำเสนอระดับเลเวอเรจที่หลากหลายโดยขึ้นอยู่กับดัชนีที่คุณกำลังเทรดซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากสัญญาณการเทรดดัชนีที่ได้กำไรได้สูงสุด ทั้งนี้ โปรดทราบว่าขณะที่เลเวอเรจช่วยเสริมศักยภาพในการทำเงินให้สถานะที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ทำให้เงินทุนของคุณมีความเสี่ยงมากขึ้น
แนวคิดในการป้องกันความเสี่ยงให้สถานะที่เปิดอยู่อาจนำมาปรับใช้ได้กับระบบการเทรดดัชหุ้นในมุมที่กว้างขึ้นเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงช่วยให้คุณสามารถเปิดสถานะในทิศทางตรงกันข้ามกับการเทรดที่กำลังเปิดอยู่ได้
การป้องกันความเสี่ยงมีประโยชน์หลายประการโดยช่วยให้คุณสามารถล็อกกำไรและจำกัดการขาดทุนในการเทรดที่เปิดอยู่ได้ เมื่อเทรด CFD ดัชนีที่ FXTM จะมีตัวเลือกในการป้องกันความเสี่ยงบน MetaTrader 5
หรือคุณสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้โดยใช้ Trailing Stops การตั้ง Trailing Stops เป็นวิธีอัตโนมัติในการปรับ Stop Loss
FXTM นำเสนอประสิทธิภาพและทรัพยากรที่คุณต้องการเพื่อเริ่มต้นเทรดดัชนี ก่อนเริ่มต้น นี่คือคำถามบางส่วนที่มือใหม่ถามกันบ่อยๆ
การเทรดดัชนีหมายถึงการเทรดคอลเลกชันสินทรัพย์ (ปกติจะเป็นหุ้นของบริษัท) ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เดียว FXTM ให้บริการเทรดดัชนีในรูปแบบ CFD ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้โดยลงทุนเพียงนิดเดียวด้วยประโยชน์จากเลเวอเรจของโบรกเกอร์เพื่อเปิดสถานะจำนวนมาก นอกจากนี้ การเทรด CFD ยังเข้าใจได้ง่ายกว่าการเทรดดัชนีที่เป็นฟิวเจอร์สหรือกองทุน เพราะคุณไม่ต้องการบริษัทแห่งเดียวหรือผู้จัดการกองทุนเพื่อเทรดด้วยตนเอง
คุณสามารถได้กำไรจากการเทรดดัชนี จุดแข็งของเทรดเดอร์ระยะยาวที่ประสบความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ความสามารถในการเทรดได้กำไรหลายๆ ครั้ง แต่เทรดเดอร์เหล่านี้อาจมีเปอร์เซ็นต์จำนวนการเทรดที่ได้กำไรประมาณ 50 ถึง 60% โดยเฉลี่ย พวกเขาตั้งเป้าที่จะทำให้แน่ใจว่าได้ขาดทุนน้อยกว่าการเทรดที่ได้กำไร
ดัชนีตลาดหุ้นมีความสำคัญเนื่องจากดัชนีหุ้นจะสะท้อนผลการดำเนินงานในตลาดของบริษัทชั้นนำในตลาดหุ้น เทรดเดอร์จำนวนมากจึงให้ความสำคัญกับดัชนีแม้ว่าพวกเขาจะเทรดหุ้นเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ดัชนียังสามารถบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
ดัชนีตลาดหุ้นมีความแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับตลาดที่คุณเลือก ดัชนีที่ได้รับความนิยมสูงสุดมักประกอบด้วยหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุด เช่น DAX, Euro 50, S&P 500 และ FTSE 100
วิธีที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์ดัชนีตลาดหุ้นคือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน อารมณ์ตลาดและเทคนิค เทรดเดอร์ควรคำนึงถึงการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งกระทบต่อตลาดหุ้น เหตุการณ์ระดับโลก เช่น การระบาดของ COVID-19 ควรได้รับการนำมาพิจารณาเช่นกัน
นอกจากนี้ การประกาศการตัดสินใจเรื่องสำคัญของบริษัทที่อยู่ในดัชนีอาจมีผลกระทบต่อค่าดัชนี ตัวอย่างเช่น การแตกหุ้นครั้งที่ 5 ของ Apple (1 หุ้นแตกเป็น 4 หุ้น) จะส่งผลต่อ Dow Jones Industrial Average ซึ่งอ้างอิงตามการถ่วงน้ำหนักจากราคา ราคาหุ้น Apple ได้ปรับตัวลดลงจาก $500 เป็น $125
FXTM นำเสนอประสบการณ์เทรดดัชนีที่เหนือระดับ เรามีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและเครื่องมือชี้วัดจำนวนมากไว้ให้บริการซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างสัญญาณการเทรดดัชนีได้อย่างแม่นยำ
ปฏิทินเศรษฐกิจของเราจะช่วยให้คุณไม่พลาดเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานได้ นอกจากนี้ ข้อมูลอัปเดตจากทีมนักวิเคราะห์ตลาดของเราจะช่วยให้คุณค้นพบโอกาสในการเทรด
การใช้ประโยชน์จากบัญชีการเทรดแบบทดลองของเราจะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาระบบการเทรดดัชนีของตนเองได้ นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังมีการเข้าถึงตัวทดสอบกลยุทธ์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทดสอบประสิทธิภาพของระบบเทรดอัตโนมัติแบบดั้งเดิม (Expert Advisors) ได้ โดยจะช่วยให้คุณสามารถระบุประสิทธิภาพที่แท้จริงของระบบการเทรดดัชนีต่างๆ ได้
นอกจากนี้ เรายังมีเครื่องมือวิเคราะห์การเทรดฟอเร็กซ์ใน MT4 ที่แม่นยำซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดได้ เทรดเดอร์ของเราจะเข้าถึงแหล่งข้อมูลการศึกษาคุณภาพสูง เช่น สัมมนาทางเว็บที่จัดโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม
หากต้องการดูประเภทบัญชีของ FXTM ที่ให้บริการเทรดดัชนี ให้ดูที่การเปรียบเทียบการคำนวณราคาแล้วคลิกที่ชื่อบัญชีเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขการเทรดอื่นๆ
*สเปรดเป็นแบบลอยตัวและอาจสูงขึ้นระหว่างระยะเวลาที่เฉพาะเจาะจงของวันโดยขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด นอกจากนี้ ยังอาจแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับดัชนีที่คุณกำลังเทรด ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดสัญญาของดัชนีที่คุณสนใจเสมอ
กรอกแบบฟอร์มเพื่อเริ่มต้นแล้วคุณจะมีบัญชีการเทรดหุ้นของตัวเองในไม่กี่นาที
มีคำถามใช่ไหม โปรดติดต่อเราเพราะเราพร้อมช่วยเหลือคุณ