คู่มือดัชนีหุ้นพร้อมวิธีเทรด

คู่มือนี้จะเจาะลึกดัชนีตลาดประเภทต่างๆ เหตุผลที่สามารถได้ประโยชน์จากการเทรด CFD รวมถึงครอบคลุมกลยุทธ์การเทรดดัชนียอดนิยม

เปิดบัญชี

การเทรดมีความเสี่ยง

ประเภทดัชนี

ประเภทดัชนี ได้แก่ ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นและพันธบัตร ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น วัตถุดิบ โลหะมีค่าหรือผลิตผลทางการเกษตร

ดัชนีพันธบัตรประกอบด้วยพันธบัตรต่างๆ จากตลาดพันธบัตร พันธบัตรเป็นหนี้ของบริษัทหรือรัฐบาลจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ FXTM ไม่ได้ให้บริการดัชนีพันธบัตรและสินค้าโภคภัณฑ์

ดัชนีเลียนแบบจะอ้างอิงตลาดที่ได้รับการจำลองขึ้นมาซึ่งได้รับความนิยมสูงกว่าในลักษณะที่เป็นกลุ่ม ขณะที่ดัชนีเคลื่อนไหวคล้ายตลาดเงินจริง แต่การปร้บตัวของราคาจะเกิดขึ้นจากการใช้ตัวเลขที่สร้างขึ้นแบบสุ่มผ่านโบรกเกอร์ทางคอมพิวเตอร์ที่ปลอดภัย ไม่มีโบรกเกอร์แห่งใดที่สามารถควบคุมตัวเลขเหล่านี้ได้ จึงไม่มีอิทธิพลเหนือ ‘พฤติกรรม’ ของตลาด ตัวอย่างหนึ่งของกลุ่มตลาดหุ้นก็คือดัชนีโซเชียลมีเดีย

อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นได้รับความนิยมสูงสุดและเทรดกันมากที่สุดเนื่องจากประกอบด้วยกลุ่มหุ้นต่างๆ จากบริษัทชั้นนำที่เทรดในตลาดหุ้นที่เจาะจง ตัวอย่างเช่น ดัชนี FTSE 100 (หรือ UK 100) ประกอบด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งใน London Stock Exchange

ดัชนีไม่มีค่าในตัวเองและไม่ได้เป็นหุ้นที่มีกรรมสิทธิ์ในบริษัท

ดัชนีมินิคืออะไร

ดัชนีมินิเป็นชุดสินทรัพย์เช่นเดียวกับดัชนีปกติ อย่างไรก็ตาม ดัชนีมินิจะมีขนาดล็อตที่เล็กกว่า เท่ากับคุณจะใช้เงินลงทุนน้อยลง ตัวอย่างดัชนีมินิยอดนิยมได้แก่ Mini S&P500 และ Mini Wall Street 30 ซึ่งสามารถเทรดได้ที่ FXTM ทั้งคู่

ดัชนีมินิเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทรดเดอร์ใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีความระมัดระวังเพื่อลงทุนในบริษัทสำคัญและช่วยให้คุณสามารถกระจายความเสี่ยงให้พอร์ทของคุณโดยทำให้เงินทุนมีความเสี่ยงน้อยลง

การถ่วงน้ำหนักของดัชนี

มีวิธีหลักในการคำนวณค่าดัชนีอยู่สองวิธี ซึ่งเรียกว่าแบบแผนการถ่วงน้ำหนักดัชนี

ดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยราคา

ราคาของดัชนีจะคำนวณโดยคำนึงถึงราคาต่อหุ้นของหุ้นแต่ละตัวในดัชนี ซึ่งหุ้นแต่ละตัวจะเป็นส่วนหนึ่งของค่าดัชนีโดยรวม ดังนั้น หากหุ้นมีราคาเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งถ่วงน้ำหนักในดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยราคาได้มากขึ้น

ดัชนีที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด

ในแบบแผนนี้ หุ้นแต่ละตัวในดัชนีจะได้รับการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีมูลค่าตลาดสูงกว่า (มูลค่าของบริษัทตามหุ้นที่ชำระแล้ว) มูลค่าหุ้นของบริษัทจะมีส่วนในค่าของดัชนีมากกว่าหุ้นที่มีราคาแพงกว่าจากบริษัทที่มีมูลค่าตลาดน้อยกว่า

ตลาดกระทิง ตลาดหมี

การเทรดดัชนีหุ้นกับ FXTM

FXTM เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำที่มอบโอกาสในการเทรดดัชนีหุ้น โดยเราได้รวบรวมพอร์ตหุ้นยอดนิยมทั้งหมดจากตลาดหุ้นชั้นนำเอาไว้ ข้อดีอื่นๆ ในการเทรดกับ FXTM รวมถึง:

MetaTrader

เทรดบน Meta Trader 4 แพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลกซึ่งใช้ได้บนอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนี้ FXTM ยังมอบการเข้าใช้ Meta Trader 5 แพลตฟอร์มล่าสุดจาก MetaQuotes ที่มีฟีเจอร์สใหม่เหนือระดับ

คัดลอกการเทรด

เราแนะนำวิธีนี้ให้กับผู้ที่ไม่ต้องการจัดการกับตลาดด้วยตนเองแต่ยังคงต้องการลงทุน คลิกที่นี่ เพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ FXTM Invest

เลเวอเรจ

ใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจสูงที่ FXTM ให้บริการเมื่อคุณเทรดดัชนีหุ้นในรูปแบบ CFD

วิธีเทรดดัชนี

มีวิธีต่างๆ ที่จะเทรดและลงทุนในดัชนีทางการเงิน คุณสามารถลงทุนใน Exchange-Traded Funds (ETF) ฟิวเจอร์สดัชนี หรือออปชั่นดัชนีอื่นๆ นักลงทุนจะได้รับปันผลจากกองทุนรวมดัชนีและ ETF

ความท้าทายของการลงทุนในกองทุนดัชนีหรือ ETF สำหรับเทรดเดอร์รายย่อยก็คือโบรกเกอร์บางแห่งกำหนดให้ใช้จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำในปริมาณมาก นอกจากนี้ ยังต้องชำระค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ

วิธีที่เร็วที่สุดที่จะเริ่มต้นเทรดดัชนีก็คือการเทรดสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ซึ่ง FXTM มีให้บริการ แต่คุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงและไม่ได้รับเงินปันผล CFD ช่วยให้เทรดเดอร์รายย่อยสามารถเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาดัชนีได้ การเทรดจะเกิดขึ้นในตลาดสปอตดัชนีซึ่งนำเสนอประสบการณ์ที่เทียบเคียงกับการเทรดคู่ฟอเร็กซ์

นี่คือเคล็ดลับสำคัญบางอย่างในการเทรดดัชนีก่อนที่คุณจะเริ่มต้น:

สัญลักษณ์หัวข้อย่อย ใช้จิตวิทยาในการเทรดที่ถูกต้องซึ่งจะเตรียมตัวคุณให้พร้อมสำหรับช่วงเวลาที่ตลาดตกต่ำ

สัญลักษณ์หัวข้อย่อย สร้างกฎการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ปกป้องคุณจากการเข้าเทรดที่ไม่คุ้มค่า

สัญลักษณ์หัวข้อย่อย มีแนวทางที่มีระเบียบวินัยโดยสร้างระบบการเทรดและปฏิบัติตามกฎการบริหารจัดการความเสี่ยง

ดัชนีที่เทรดมากที่สุดคืออะไร

เทรดเดอร์จะสนใจดัชนีที่มีปริมาณการเทรดมากที่สุดและมีความผันผวนสูงกว่าเพื่อให้สามารถทำกำไรได้จากการแกว่งตัวของราคา ดัชนีตลาดหุ้น ประกอบด้วยหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดโดยพื้นฐาน

FXTM ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเทรดดัชนีหุ้นได้ทั่วโลก ดัชนีหุ้นมีปริมาณการเทรดสูงและผ่านการวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด จึงเท่ากับว่าคุณสามารถค้นหาข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องซึ่งประกาศออกมาได้

ดัชนีหุ้น

ชื่อย่อและชื่อคำอธิบาย
S&P/ASX 200, XJOm, AUS200 หรือ Australia 200AUS200 ที่คำนวณตั้งแต่ปี 2007 ประกอบด้วยกลุ่มหุ้นของบริษัทชั้นนำ 200 แห่งจาก Australian Stock Exchange
FCHI40, CAC 40 หรือ France 40CAC 40 ใช้หลักทรัพย์ที่สำคัญที่สุด 40 ตัวจาก Euronext Paris ซึ่งเป็นดัชนีที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นปารีสและใช้แบบแผนการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด
SMI หรือ Social Media Indexใช้ความเคลื่อนไหวของกลุ่มหุ้นจากบริษัทโซเชียลมีเดีย
GDAXIm, DAX หรือ Germany 30 (Mini)DAX ประกอบด้วยบริษัทเยอรมนี 30 แห่งที่เทรดมากที่สุดใน Frankfurt Exchange โดยเป็นดัชนีชี้วัดสถานะตลาดหุ้นเยอรมนีที่สำคัญที่สุด
HSI50, HS50 หรือ Hong Kong 50ประกอบด้วยหุ้นบริษัทชั้นนำจากตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีหุ้นสำคัญของเอเชียและใช้การถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด
Jap225, Nikkei 225, N225, NIK หรือ Japan 225ประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น 225 บริษัทและทำหน้าที่เป็นดัชนีชั้นนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยใช้การถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด
ND100m หรือ US Tech 100 (Mini)ออปชั่น CFD ฟิวเจอร์สดัชนีขนาดเล็กของ NASDAQ-100 Index ที่มีบริษัท 100 แห่งที่ไม่ได้อยู่ในภาคการเงิน เช่น ภาคเทคโนโลยี การสื่อสารและเทคโนโลยีชีวภาพ
SP500m, S&P 500 Mini, E-Mini S&P 500 Future หรือ US SPX 500 (Mini)เป็นดัชนีที่อ้างอิงตาม S&P 500 และเทรดในตลาด Chicago Mercantile E-mini หนึ่งสัญญาคิดเป็น ⅕ ของค่าใช้จ่ายของสัญญา S&P มาตรฐาน
SPN35, IBEX 35 หรือ Spain 35ดัชนีจะทำหน้าที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานของตลาดหุ้นหลักของสเปน โดยใช้แบบแผนการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดซึ่งมีหุ้นที่เทรดกันในตลาดระดับแนวหน้า 35 ตัว
STOXX 50, STOXX Europe 50, EURO Stoxx50 หรือ Europe 50ประกอบด้วยหุ้นยูโรโซนจาก 9 ประเทศ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริษัทฝรั่งเศสและเยอรมนี หุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นชั้นนำขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ในภาคย่อยที่สำคัญของตลาดหุ้น
UK 100, ‘Footsie’ หรือ FTSE 100 Indexดัชนีถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดที่มีหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 100 ตัวใน London Stock Exchange โดยคิดเป็นมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดในสหราชอาณาจักรและเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ได้รับความสนใจมากที่สุด FTSE 100 เป็นหนึ่งในดัชนีที่ได้รับความนิยมในการเทรดมากที่สุด
US 30 mini หรือ Wall Street 30 (Mini)US 30 mini หรือ Wall Street 30 (Mini) เป็นออปชั่นดัชนีขนาดเล็กของ Wall Street 30 Index ที่ใช้บริษัทที่ใหญ่ที่สุดที่เทรดในตลาดสหรัฐฯ

กลุ่มหุ้น

นอกจากนี้ ยังสามารถเทรดกลุ่มหุ้นที่ไม่ใช่ดัชนีหุ้นทั่วไปแต่ได้รับการนำเสนอเป็นดัชนี เช่นเดียวกับกลุ่มสกุลเงิน แต่กลุ่มสกุลเงินจะไม่มีหุ้นเป็นส่วนประกอบ ขณะที่กลุ่มหุ้นจะมีค่าเฉลี่ยราคาถ่วงน้ำหนักของหุ้นจำนวนหนึ่งในธีมหรืออุตสาหกรรม (คล้ายคลึงกับ Index ETF แบบดั้งเดิมอย่างยิ่ง)

ขณะนี้ FXTM ให้บริการ Social Media Index, Space Wars Index, Green Index, Mobile Index และ Vegan Index

Social Media Indexมีราคาหุ้นของบริษัทโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่นFacebook, Twitter, Snapchat และ Google
Space Wars Indexมีราคาหุ้นของบริษัทเครื่องบินและยานอวกาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น Boeing, Lockheed Martin, Viasat ฯลฯ
Mobile Indexมีราคาหุ้นของบริษัทการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น Apple, Qualcomm, Crown Castle Int., T-Mobile US ฯลฯ
Green Indexมีราคาหุ้นของบริษัทบางแห่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น Tesla, Beyond Meat, Bloom Energy และ Weyerhaeuser
Vegan Indexมีราคาหุ้นของบริษัทบางแห่งที่มีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมการเกษตรมากที่สุดในโลก เช่น Beyond Meat, Archer-Daniels และ Ingredion Incorporated

กลยุทธ์การเทรดดัชนี

ข้อดีของตลาดดัชนี CFD ก็คือคุณสามารถใช้เทคนิคที่ผ่านการพยายามและทดสอบแล้วซึ่งใช้ในการเทรดหุ้นหรือฟอเร็กซ์ได้โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเทรดทางเทคนิคของคุณ นี่คือเทคนิคบางอย่างในการเทรดดัชนีทางเทคนิคที่คุณสามารถเริ่มต้นนำมาใช้ได้ในฐานะมือใหม่

แนวรับและแนวต้าน

แนวรับและแนวต้าน แนวรับและแนวต้าน

การพัฒนาทักษะเพื่อค้นหาระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นเป็นทักษะพื้นฐานที่คุณจะเรียนรู้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวทั้งคู่จะแสดงระดับราคาที่ดูเหมือนจะปรับตัวทะลุขึ้นและลง แต่ว่าปรับตัวไม่ผ่าน

กลยุทธ์ทั่วไปในการเทรดด้วยแนวรับและแนวต้านก็คือให้ซื้อระหว่างที่ราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและได้ปรับตัวลงมาที่เส้นแนวรับ เพราะเทรดเดอร์สามารถคาดหวังได้ว่าราคาจะเด้งกลับไปในทิศทางขาขึ้น หรือระหว่างแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์จะขายระหว่างที่ราคาแตะระดับแนวต้านโดยคาดหวังว่าดัชนีจะปรับตัวลดลงไปอีก

แนวรับและแนวต้านที่ปรากฏ

การเทรดตามแนวโน้ม (เส้นแนวโน้ม)

การเทรดตามแนวโน้ม การเทรดตามแนวโน้ม ตัวอย่างกราฟ NASDAQ

การเทรดตามเส้นแนวโน้มมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อเทรดดัชนีหุ้นในฐานะ CFD ตัวอย่างเช่น ดัชนี เช่น S&P 500 อยู่ในขาขึ้นเป็นเวลานาน

โดยเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องนานเป็นพิเศษ บริษัทต่างสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ซึ่งทำให้เติบโตในระยะยาว ราคาหุ้นจึงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

มีวิธีค้นหาแนวโน้มหลายวิธี เช่น การลากจุดต่ำสุดที่สูงสุดและจุดสูงสุดที่ต่ำสุด หรือใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และเครื่องมือวิเคราะห์โมเมนตัม

การค้นหาแนวโน้ม: คู่มือสำหรับมือใหม่

Moving Average

Moving Average

การใช้ Moving Average เพื่อเทรดดัชนีจะช่วยให้คุณสามารถระบุแนวโน้มของตลาดในภาพรวมได้โดยไม่มีสัญญาณรบกวนจากความเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวัน Moving Average สามารถนิยามได้ว่าเป็นเส้นที่อ้างอิงตามราคาปิดโดยเฉลี่ยในกรอบระยะเวลาที่กำหนด

ซึ่งกรอบเวลาต่างๆ ที่นิยมใช้ใน Moving Average ได้แก่ 10 วัน, 20 วัน หรือ50 วัน Moving Average จะแสดงระดับแนวรับและแนวต้าน ตัวอย่างเช่น ระหว่างแนวโน้มขาขึ้นในตลาด ราคามีแนวโน้มที่จะเด้งขึ้นมาหลังจากลงมาทดสอบ Moving Average

Scholastic Oscillators

Scholastic Oscillators Scholastic Oscillators

เครื่องมือวิเคราะห์อีกตัวที่ง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับใช้เมื่อเทรดดัชนีก็คือ Scholastic Oscillators ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ง่ายสำหรับมือใหม่เนื่องจากประกอบด้วยเส้นสองเส้น ได้แก่: %K และ %D โดยพื้นฐานแล้ว จะใช้เพื่อพิจารณาว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปหรือไม่

ทั้งนี้ เทรดเดอร์จะดูสัญญาณการเทรดจาก %D เป็นหลัก เหตุที่เรียกว่า Oscillators (สิ่งที่แกว่งไปมา) ก็เพราะเส้นจะแกว่ง (ปรับตัวขึ้นและลง) ตามความเคลื่อนไหวของราคา

Scholastic Oscillatorsมีสองประเภท ได้แก่: แบบช้าและเร็ว Scholastic Oscillators แบบเร็วมีแนวโน้มที่จะสร้างสัญญาณหลอกมากกว่าเนื่องจากอ่อนไหวต่อสัญญาณรบกวนมากกว่า

เมื่อปรับเปลี่ยนสูตร จะได้ Scholastic แบบช้าซึ่งแก้ปัญหาเรื่องความเคลื่อนไหวของราคาได้มากกว่าเพื่อสร้างสัญญาณที่ดีกว่า

Stochastic Oscillator (บทความ)

เทรดดัชนีดุจมืออาชีพโดยเรียนรู้เรื่องเครื่องมือวิเคราะห์และกลยุทธ์การเทรดทางเทคนิคเหล่านี้

เปิด Long หรือ Short

เปิด Long หรือ Short เปิด Long หรือ Short

พื้นฐานในการเทรด CFD ดัชนีก็คือการเลือกว่าจะเปิด Long หรือ Short หลังใช้กลยุทธ์การเทรดดัชนีของคุณ คุณอาจได้ข้อสรุปว่าการซื้อดัชนีโดยเปิดสถานะ Long น่าจะดีกว่า จากนั้น คุณจะถือสถานะไว้โดยคาดว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น หากเป็นเช่นนั้น คุณก็จะปิดสถานะเมื่อราคาสูงขึ้นและได้กำไร

การ Short ดัชนีหมายความว่าคุณคาดว่ามูลค่าจะลดลง อาจเป็นเพราะการประกาศข่าวเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามคาด

คุณจะไม่สามารถเปิดสถานะ Short และ Long ในการเทรด CDS ดัชนีหรือการเทรดดัชนี ETF ได้

เทรดด้วยเลเวอเรจ

เทรดด้วยเลเวอเรจ เทรดด้วยเลเวอเรจ

การเทรดดัชนีในรูปแบบ CFD จะให้คุณเข้าใช้เลเวอเรจได้ เลเวอเรจเป็นความสามารถที่จะเปิดสถานะที่มีมูลค่าสูง (เช่น $20,000) แต่ใช้เงินทุนของคุณเองในจำนวนน้อยกว่า (เช่น $500)

FXTM นำเสนอระดับเลเวอเรจที่หลากหลายโดยขึ้นอยู่กับดัชนีที่คุณกำลังเทรดซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากสัญญาณการเทรดดัชนีที่ได้กำไรได้สูงสุด ทั้งนี้ โปรดทราบว่าขณะที่เลเวอเรจช่วยเสริมศักยภาพในการทำเงินให้สถานะที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ทำให้เงินทุนของคุณมีความเสี่ยงมากขึ้น

ป้องกันความเสี่ยงให้สถานะที่มี

ป้องกันความเสี่ยงให้สถานะที่มี ป้องกันความเสี่ยงให้สถานะที่มี

แนวคิดในการป้องกันความเสี่ยงให้สถานะที่เปิดอยู่อาจนำมาปรับใช้ได้กับระบบการเทรดดัชหุ้นในมุมที่กว้างขึ้นเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงช่วยให้คุณสามารถเปิดสถานะในทิศทางตรงกันข้ามกับการเทรดที่กำลังเปิดอยู่ได้

การป้องกันความเสี่ยงมีประโยชน์หลายประการโดยช่วยให้คุณสามารถล็อกกำไรและจำกัดการขาดทุนในการเทรดที่เปิดอยู่ได้ เมื่อเทรด CFD ดัชนีที่ FXTM จะมีตัวเลือกในการป้องกันความเสี่ยงบน MetaTrader 5

หรือคุณสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้โดยใช้ Trailing Stops การตั้ง Trailing Stops เป็นวิธีอัตโนมัติในการปรับ Stop Loss

คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับการเทรดดัชนี

FXTM นำเสนอประสิทธิภาพและทรัพยากรที่คุณต้องการเพื่อเริ่มต้นเทรดดัชนี ก่อนเริ่มต้น นี่คือคำถามบางส่วนที่มือใหม่ถามกันบ่อยๆ

การเทรดดัชนีหมายถึงอะไร

การเทรดดัชนีหมายถึงการเทรดคอลเลกชันสินทรัพย์ (ปกติจะเป็นหุ้นของบริษัท) ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เดียว FXTM ให้บริการเทรดดัชนีในรูปแบบ CFD ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้โดยลงทุนเพียงนิดเดียวด้วยประโยชน์จากเลเวอเรจของโบรกเกอร์เพื่อเปิดสถานะจำนวนมาก นอกจากนี้ การเทรด CFD ยังเข้าใจได้ง่ายกว่าการเทรดดัชนีที่เป็นฟิวเจอร์สหรือกองทุน เพราะคุณไม่ต้องการบริษัทแห่งเดียวหรือผู้จัดการกองทุนเพื่อเทรดด้วยตนเอง

ฉันสามารถได้กำไรจากการเทรดดัชนีหรือไม่

คุณสามารถได้กำไรจากการเทรดดัชนี จุดแข็งของเทรดเดอร์ระยะยาวที่ประสบความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ความสามารถในการเทรดได้กำไรหลายๆ ครั้ง แต่เทรดเดอร์เหล่านี้อาจมีเปอร์เซ็นต์จำนวนการเทรดที่ได้กำไรประมาณ 50 ถึง 60% โดยเฉลี่ย พวกเขาตั้งเป้าที่จะทำให้แน่ใจว่าได้ขาดทุนน้อยกว่าการเทรดที่ได้กำไร

เหตุใดดัชนีหุ้นจึงสำคัญ

ดัชนีตลาดหุ้นมีความสำคัญเนื่องจากดัชนีหุ้นจะสะท้อนผลการดำเนินงานในตลาดของบริษัทชั้นนำในตลาดหุ้น เทรดเดอร์จำนวนมากจึงให้ความสำคัญกับดัชนีแม้ว่าพวกเขาจะเทรดหุ้นเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ดัชนียังสามารถบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

ดัชนีตลาดหุ้นใดเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุด

ดัชนีตลาดหุ้นมีความแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับตลาดที่คุณเลือก ดัชนีที่ได้รับความนิยมสูงสุดมักประกอบด้วยหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุด เช่น DAX, Euro 50, S&P 500 และ FTSE 100

วิธีที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์ดัชนีตลาดหุ้นคือวิธีใด

วิธีที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์ดัชนีตลาดหุ้นคือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน อารมณ์ตลาดและเทคนิค เทรดเดอร์ควรคำนึงถึงการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งกระทบต่อตลาดหุ้น เหตุการณ์ระดับโลก เช่น การระบาดของ COVID-19 ควรได้รับการนำมาพิจารณาเช่นกัน

นอกจากนี้ การประกาศการตัดสินใจเรื่องสำคัญของบริษัทที่อยู่ในดัชนีอาจมีผลกระทบต่อค่าดัชนี ตัวอย่างเช่น การแตกหุ้นครั้งที่ 5 ของ Apple (1 หุ้นแตกเป็น 4 หุ้น) จะส่งผลต่อ Dow Jones Industrial Average ซึ่งอ้างอิงตามการถ่วงน้ำหนักจากราคา ราคาหุ้น Apple ได้ปรับตัวลดลงจาก $500 เป็น $125

FXTM จะช่วยฉันได้อย่างไรหากฉันต้องการเทรดดัชนี

FXTM นำเสนอประสบการณ์เทรดดัชนีที่เหนือระดับ เรามีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและเครื่องมือชี้วัดจำนวนมากไว้ให้บริการซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างสัญญาณการเทรดดัชนีได้อย่างแม่นยำ

ปฏิทินเศรษฐกิจของเราจะช่วยให้คุณไม่พลาดเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานได้ นอกจากนี้ ข้อมูลอัปเดตจากทีมนักวิเคราะห์ตลาดของเราจะช่วยให้คุณค้นพบโอกาสในการเทรด

การใช้ประโยชน์จากบัญชีการเทรดแบบทดลองของเราจะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาระบบการเทรดดัชนีของตนเองได้ นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังมีการเข้าถึงตัวทดสอบกลยุทธ์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทดสอบประสิทธิภาพของระบบเทรดอัตโนมัติแบบดั้งเดิม (Expert Advisors) ได้ โดยจะช่วยให้คุณสามารถระบุประสิทธิภาพที่แท้จริงของระบบการเทรดดัชนีต่างๆ ได้

นอกจากนี้ เรายังมีเครื่องมือวิเคราะห์การเทรดฟอเร็กซ์ใน MT4 ที่แม่นยำซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดได้ เทรดเดอร์ของเราจะเข้าถึงแหล่งข้อมูลการศึกษาคุณภาพสูง เช่น สัมมนาทางเว็บที่จัดโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

ประเภทบัญชีของ FXTM ที่ให้บริการดัชนีหุ้น

หากต้องการดูประเภทบัญชีของ FXTM ที่ให้บริการเทรดดัชนี ให้ดูที่การเปรียบเทียบการคำนวณราคาแล้วคลิกที่ชื่อบัญชีเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขการเทรดอื่นๆ

*สเปรดเป็นแบบลอยตัวและอาจสูงขึ้นระหว่างระยะเวลาที่เฉพาะเจาะจงของวันโดยขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด นอกจากนี้ ยังอาจแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับดัชนีที่คุณกำลังเทรด ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดสัญญาของดัชนีที่คุณสนใจเสมอ

พร้อมเทรดดัชนี
หุ้นกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมหรือยัง

กรอกแบบฟอร์มเพื่อเริ่มต้นแล้วคุณจะมีบัญชีการเทรดหุ้นของตัวเองในไม่กี่นาที

มีคำถามใช่ไหม โปรดติดต่อเราเพราะเราพร้อมช่วยเหลือคุณ

Scroll Top
การเตือนความเสี่ยง: การเทรดมีความเสี่ยง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง Exinity Limited มีการกำกับดูแลโดย FSC (มอริเชียส)
การเตือนความเสี่ยง: การเทรดมีความเสี่ยง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง Exinity Limited มีการกำกับดูแลโดย FSC (มอริเชียส)