ที่ FXTM เรามุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าลูกค้าของเราจะไม่พลาดผลิตภัณฑ์ล่าสุด เครื่องมือการเทรด แพลตฟอร์ม และบัญชีที่ทันสมัย
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น เราได้สร้างสรรค์คู่มือที่ครอบคลุมสำหรับมือใหม่เพื่อแนะนำให้คุณทราบคำศัพท์ด้าน Forex ตอบคำถามที่ถามบ่อย และที่สำคัญที่สุดก็คือเราถ่ายทอดให้เข้าใจได้ง่าย
ต้องการข้อมูลที่เจาะลึกยิ่งขึ้นเกี่ยวกับคำศัพท์ Forex ใช่ไหม ไปที่หน้าคำศัพท์ของเรา
ตลาด Forex คืออะไร
การเทรด Forex คืออะไร
โบรกเกอร์ Forex คืออะไร
ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (หรือที่เรียกว่า forex หรือ FX) หมายถึงตลาดที่ซื้อขายกันโดยตรง (OTC) ระดับโลกซึ่งเทรดเดอร์ นักลงทุน สถาบัน และธนาคารจะแลกเปลี่ยน เก็งกำไร ซื้อและขายสกุลเงินของโลก
การเทรดจะทำขึ้นใน ‘ตลาดระหว่างธนาคาร’ ซึ่งเป็นช่องทางทางออนไลน์ที่มีการเทรดสกุลเงิน 24 ชั่วโมงต่อวัน ห้าวันต่อสัปดาห์ Forex เป็นหนึ่งในตลาดการเทรดที่ใหญ่ที่สุดโดยมีเงินหมุนเวียนทั่วโลกในแต่ละวันโดยประมาณมากกว่า5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การเทรด Forex คือการซื้อหรือขายเงินตรา ธนาคาร ธนาคารกลาง บริษัท นักลงทุนสถาบัน และเทรดเดอร์รายย่อยจะแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น การสร้างความสมดุลให้ตลาด การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือการทำกำไร
สกุลเงินจะเทรดเป็นคู่ ทั้งในสปอตและตลาดฟิวเจอร์ส มูลค่าของคู่เงินจะเป็นผลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสภาพแวดล้อม เช่น สังคม ภัยธรรมชาติ หรือการเลือกตั้งของประเทศ
โบรกเกอร์จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่อำนวยความสะดวกให้การเทรดโดยช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงตลาดระหว่างธนาคารได้ 24 ชั่วโมง
เพื่อดำเนินการเทรด
FXTM ให้บริการบัญชีที่หลากหลายเป็นจำนวนมาก โดยแต่ละบัญชีจะมีบริการและฟีเจอร์สที่ปรับให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการเทรดส่วนบุคคลของลูกค้าของเรา ค้นพบบัญชีที่เหมาะกับคุณได้ในหน้าบัญชีของเรา เป็นมือใหม่ในการเทรด Forex ใช่ไหม ศึกษาตลาดได้โดยเปิดหน้าบัญชีทดลอง
ธุรกรรมทั้งหมดที่ทำขึ้นในตลาด Forex นั้นเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสกุลเงินสองสกุลในเวลาเดียวกัน
สกุลเงินเหล่านี้จะเรียกว่า ‘คู่สกุลเงิน’ โดยรวมถึงสกุลเงินฐานและสกุลเงินที่โควต ภาพทางด้านล่างแสดงถึงคู่ Forex EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่สกุลเงินที่ใช้กันมากที่สุดในตลาด Forex
สกุลเงินฐาน
ยูโร
EUR
สกุลเงินที่โควต
ดอลลาร์สหรัฐฯ
USD
ราคาเสนอซื้อ
ขาย 1 ยูโรต่อ 1.0916 ดอลลาร์สหรัฐฯ
1.0916
ราคาเสนอขาย
ซื้อ 1 ยูโรต่อ 1.0918 ดอลลาร์สหรัฐฯ
1.0918
สเปรด
ราคาเสนอขาย - ราคาเสนอซื้อ
1.0918 - 1.0916 = 0.0002 (2 pips)
Pips
ราคาเสนอขาย - ราคาเสนอซื้อ
1.0918 - 1.0916 = 0.0002 (2 pips)
สกุลเงินฐานเป็นสกุลเงินลำดับแรกที่ปรากฏในคู่ Forex สกุลเงินนี้จะถูกซื้อหรือขายโดยแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินที่โควต
ดังนั้น จากตัวอย่างข้างต้น เทรดเดอร์จะต้องจ่าย 1.0916 USD เพื่อซื้อ 1 EUR
หรือเทรดเดอร์สามารถขาย 1 EUR ในอัตรา1.0916 USD
สกุลเงินที่โควต ซึ่งยังสามารถเรียกได้ว่าสกุลเงิน ‘อ้างอิง’ เป็นสกุลเงินลำดับที่สองที่ปรากฏในคู่ Forex
ราคาเสนอขายคือราคาที่เทรดเดอร์ตั้งใจจะขายคู่สกุลเงิน
ราคาเสนอขายจะระบุแบบเรียลไทม์และจะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของตลาด รวมถึงปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจ
ที่กระทบต่อมูลค่าของสกุลเงินนั้นๆ
ราคาเสนอซื้อคือราคาที่เทรดเดอร์ตั้งใจจะซื้อคู่สกุลเงิน โดยจะระบุแบบเรียลไทม์และจะอัพเดตอย่างต่อเนื่อง
สเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย หรือพูดอีกอย่างก็คือค่าใช้จ่ายในการเทรด
ตัวอย่างเช่น หากยูโรเทียบกับดอลลาร์กำลังเทรดที่ราคาเสนอขาย 1.0918 และราคาเสนอซื้อ 1.0916 หมายถึงสเปรดเท่ากับราคาเสนอขายลบราคาเสนอซื้อ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ 0.0002
Point in price (จุดในราคา) หรือเรียกสั้นๆ ว่า pip เป็นเกณฑ์วัดความเปลี่ยนแปลงของคู่สกุลเงินในตลาด Forex
นอกจากนี้ ตัวย่อยังย่อมาจาก ‘percentage in point’ และ ‘price interest point’ ได้อีกด้วย Pip ใช้วัดความเคลื่อนไหวของราคาและแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของคู่สกุลเงิน คู่สกุลเงินส่วนใหญ่ได้รับการแสดงเป็นทศนิยมห้าตำแหน่ง
หมายเหตุ: ราคา Forex มักจะแสดงเป็นทศนิยมสี่หลักเนื่องจากปกติแล้ว สเปรดจะมีความแตกต่างกันน้อยมากๆ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกฎที่ดีที่สุดเมื่อพูดถึงตำแหน่งทศนิยมที่ใช้ในการแสดงราคา Forex
ในตลาด Forex การเทรดค่าเงินมักมีมูลค่าหลายล้าน ดังนั้น ส่วนต่างของราคาเสนอซื้อ-เสนอขายเพียงเล็กน้อย (เช่น หลาย pip) ก็สามารถทำกำไรได้ก้อนโต แน่นอนว่าปริมาณการเทรดขนาดใหญ่เช่นนี้ยังหมายความว่าสเปรดเพียงเล็กน้อยก็อาจเท่ากับการขาดทุนจำนวนมหาศาล
โปรดเทรดอย่างระมัดระวังและคำนึงถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเสมอ
‘สถานะ’ เป็นคำศัพท์ที่ใช้เพื่ออธิบายถึงการเทรดที่กำลังเกิดขึ้น สถานะ Long หมายความว่าเทรดเดอร์ได้ซื้อสกุลเงินโดยคาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้น เมื่อเทรดเดอร์ขายสกุลเงินดังกล่าวกลับไปยังตลาด (ทางทฤษฎีคือขายได้ในราคาสูงกว่าที่จ่ายไป) สถานะ Long ของเขาจะถูก ‘ปิด’ และการเทรดจะเสร็จสมบูรณ์
สถานะ Short หมายถึงเทรดเดอร์ที่ขายสกุลเงินเพราะคาดว่าราคาจะตกลง และวางแผนที่จะซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่า สถานะ Short จะถูก ‘ปิด’ เมื่อเทรดเดอร์ซื้อสินทรัพย์คืน (ทางทฤษฎีคือถูกกว่าราคาที่เขาขายไป)
ตัวอย่างเช่นหากคู่สกุลเงิน EUR/USD กำลังเทรดที่ 1.0916/1.0918 แสดงว่านักลงทุนที่ต้องการเปิดสถานะ Long ของเงินยูโรจะซื้อ 1 EUR ด้วยเงิน 1.0918 USD ต่อมา เทรดเดอร์จะถือยูโรโดยหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้น และจะขายกลับไปในตลาดเพื่อทำกำไรเมื่อราคาสูงขึ้น
นักลงทุนที่จะ Short EUR อาจขาย 1 EUR เป็นเงิน 1.0916 USD เทรดเดอร์รายนี้คาดว่าเงินยูโรจะราคาตกลง และวางแผนที่จะซื้อคืนในราคาที่ต่ำลงอีกหากทำได้
มีคู่สกุลเงินหลักเจ็ดคู่ในตลาด Forex ส่วนคู่ที่เหลือได้แก่คู่ครอสและคู่กลุ่มประเทศตลาดใหม่ (Exotics) ซึ่งปกติได้รับการเทรดน้อยกว่าและไม่ค่อยมีสภาพคล่อง (กล่าวคือแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ไม่ง่าย)
คู่สกุลเงินหลัก เป็นคู่ที่ได้รับการเทรดมากที่สุดโดยมีมูลค่าประมาณ 80% ของปริมาณการเทรดในตลาด Forex
ปกติแล้ว คู่สกุลเงินเหล่านี้จะมีความผันผวนต่ำและมีสภาพคล่องสูง
คู่สกุลเงินเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพและบริหารจัดการได้ดี รวมถึงปั่นราคาได้ยากกว่าและมีสเปรดที่แคบกว่าคู่เงินอื่นๆ อีกด้วย
คู่สกุลเงินครอส – คู่ครอส – เป็นคู่ที่ไม่มี USD
ในอดีต คู่ครอสจะได้รับการแปลงเป็น USD ก่อนและจากนั้น จึงแปลงเป็นสกุลเงินที่ต้องการ แต่ตอนนี้ มีบริการแลกเปลี่ยนโดยตรงแล้ว
คู่ที่เทรดกันมากที่สุดนั้นมาจากคู่สกุลเงินรอง (เช่น EUR/GBP, EUR/JPY, GBP/JPY) ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีสภาพคล่องน้อยกว่าและผันผวนมากกว่าคู่สกุลเงินหลัก
คู่ประเทศตลาดใหม่ คือสกุลเงินจากประเทศเกิดใหม่หรือประเทศขนาดเล็กกว่าที่จับคู่กับสกุลเงินหลัก
เทียบกับคู่ครอสและคู่หลักแล้ว คู่ประเทศตลาดใหม่จะมีความเสี่ยงในการเทรดที่สูงกว่ามากเนื่องจากมีสภาพคล่องน้อยกว่า มีความผันผวนมากกว่า และปั่นราคาได้ง่ายกว่า
นอกจากนี้ ยังมีสเปรดที่กว้างกว่าและอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการพัฒนาทางการเงินอย่างกระทันหันมากกว่า
ทางด้านล่าง เราได้จัดทำตารางที่แสดงคู่สกุลเงินต่างๆ หลายคู่เอาไว้จากแต่ละหมวด รวมถึงชื่อเล่นที่เทรดเดอร์ตั้งให้
ยูโร
ดอลลาร์สหรัฐฯ
เยนญี่ปุ่น
ปอนด์อังกฤษ
ฟรังก์สวิส
ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์นิวซีแลนด์
เปโซเม็กซิโก
โครนนอร์เวย์
โครนเดนมาร์ก
เรียลราร์ เตอรกียร์
การทำความเข้าใจ
แท่งเทียนเป็นกราฟที่มีอีกชื่อหนึ่งว่ากราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น และเป็นที่ชื่นชอบของเทรดเดอร์เนื่องจากแสดงช่วงข้อมูลที่กว้าง กราฟจะแสดงราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด ราคาเปิดและราคาปิด
แท่งเทียนมีด้วยกันสามจุดก็คือ ราคาเปิด ราคาปิด และตัวไส้
ตัวไส้แสดงช่วงของราคาสูงสุดถึงต่ำสุด และ 'ตัวแท่งจริงๆ' (ส่วนที่กว้าง) จะปรากฏให้นักลงทุนเห็นหากราคาปิดสูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาเปิด
หากแท่งเทียนเต็ม แสดงว่าราคาปิดของคู่สกุลเงินต่ำกว่าราคาเปิด หากแท่งเทียนกลวง แสดงว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด
กราฟแท่งจะแสดงราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุดของคู่สกุลเงิน
ด้านบนของแท่งจะแสดงราคาสูงสุดที่ชำระ ส่วนด้านล่างจะแสดงราคาต่ำสุดที่เทรดสำหรับช่วงระยะเวลานั้นๆ
แท่งจริงจะแสดงช่วงการเทรดโดยรวมของคู่สกุลเงินและเส้นแนวนอนที่ด้านข้างแสดงถึงราคาเปิด (ซ้าย) และราคาปิด (ขวา)
ทั้งนี้ กราฟแท่งมักนำมาใช้เพื่อระบุการย่อตัวและการขยายตัวของช่วงราคามากที่สุด
กราฟเส้นเป็นสิ่งที่ทำความเข้าใจได้ง่ายสำหรับมือใหม่หัดเทรด Forex ในกราฟเส้น จะมีการลากเส้นจากราคาปิดราคาหนึ่งไปยังราคาถัดไป
เมื่อลากต่อกัน การระบุความเคลื่อนไหวโดยรวมของราคาคู่สกุลเงินในช่วงระยะเวลาหนึ่งจะทำได้ง่ายและจะกำหนดรูปแบบของสกุลเงิน
ในคู่มือนี้ เราจะพูดถึงแง่มุมบางส่วนที่สำคัญที่สุดในการเทรด Forex โดยย่อ ซึ่งรวมถึงคำศัพท์สำคัญ คู่สกุลเงินคืออะไร ธุรกรรมของคู่สกุลเงินทำงานอย่างไร และนักลงทุนสามารถทำกำไรจากสถานะที่เปิดในตลาด Forex ได้อย่างไร
ยกระดับการเทรดของคุณด้วยวิดีโอ บทความ การสัมมนาทางเว็บและคำนิยามของเรา ซึ่งทั้งหมดนี้มีให้ใช้ฟรีที่ส่วนการศึกษาในเว็บไซต์เรา
ทรัพยากรการศึกษาชั้นนำในอุตสาหกรรมของ FXTM มีให้บริการใน 22 ภาษา และได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
การเทรด Forex ทำงานอย่างไร
กระบวนการซื้อและขายสกุลเงินเพื่อทำกำไรนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ราคาของสกุลเงินหนึ่งจะเชื่อมโยงกับราคาของอีกสกุลที่เทรด ดังนั้น คุณจะต้องศึกษาสองสกุลคู่กันเสมอ
สกุลเงินฐานเป็นสกุลเงินลำดับแรกที่ปรากฏในราคาคู่สกุลเงิน ตามด้วยสกุลเงินที่โควต
ส่วนต่างของราคาระหว่างสกุลเงินก็คือจุดที่คุณจะได้กำไรหรือขาดทุน
วิธีเทรด Forex
ให้มองหาโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลซึ่งมีประวัติอย่างน้อย 5 ปี หากโบรกเกอร์ของคุณมีกฎในการกำกับดูแล คุณจะอุ่นใจได้ว่าโบรกเกอร์ถูกกฎหมาย เมื่อคุณมีบัญชีที่เปิดใช้งาน คุณจะสามารถเทรดได้ แต่คุณจะต้องฝากเงินเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเทรดของคุณ ซึ่งเรียกว่าบัญชีที่มีหลักประกัน
โชคดีที่มีสื่อการสอนจำนวนมากให้บริการสำหรับทั้งเทรดเดอร์ใหม่และเทรดเดอร์เก่า การสอนจะมีในหลากหลายรูปแบบซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์สไตล์การเรียนรู้ของคุณ คุณสามารถเข้าร่วมเวิร์คช็อปและสัมมนา เข้ารับการอบรมทางออนไลน์ และการสัมมนาทางเว็บ หรืออ่านอีบุ๊กและบทความได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเป็นเทรดเดอร์ที่ดีขึ้น
เรียนการเทรด Forex
การเรียนเทรด Forex เป็นขั้นตอนแรกซึ่งเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจะทำ มีสื่อการเรียนหลายประเภทให้บริการสำหรับเทรดเดอร์ตั้งแต่มือใหม่จนถึงระดับสูง
มีเครื่องมือ Forex จำนวนมากสำหรับเทรดเดอร์ เช่น โปรแกรมคำนวณหลักประกัน โปรแกรมคำนวณ pip โปรแกรมคำนวณกำไร ปฏิทินการเทรดด้านเศรษฐกิจ สัญญาณการเทรด และโปรแกรมแปลงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ
วิดเจ็ต Forex สามารถช่วยให้คุณยกระดับประสบการณ์ในการเทรดของคุณได้ วิดเจ็ตยอดนิยมบางส่วนได้แก่ ฟีดอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปัจจุบัน ระดับดัชนีปัจจุบัน และวิดเจ็ตการอัพเดตตลาด
เราคือโบรกเกอร์ชั้นนำระดับโลกที่มุ่งมั่นส่งมอบบริการซึ่งปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าของเรา ดังนั้น FXTM จึงภูมิใจที่จะนำเสนอแพลตฟอร์มการเทรด Forex ชั้นนำในอุตสาหกรรมสองทางเลือกให้กับเทรดเดอร์ ได้แก่ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5)
แพลตฟอร์มเหล่านี้และบริการที่ทันสมัย เช่น เครื่องมือ Pivot Point ของ รวมถึงทีมสนับสนุนลูกค้าที่ได้รับรางวัลจะทำให้มั่นใจว่าเทรดเดอร์ของ FXTM มีทรัพยากรที่พวกเขาต้องการเพื่อให้เทรดได้อย่างมั่นใจ
คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดของเรา หรือดาวน์โหลด MT4 และ MT5 ได้จากหน้าแพลตฟอร์มการเทรดของเรา
ยังไม่ได้เทรดกับโบรกเกอร์ชั้นนำของโลกใช่ไหม ลงทะเบียนวันนี้